ศูนย์ข้อมูลความรู้ – FAQs

รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาอินเตอร์เน็ต

บริการ AIS Fibre คืออะไร ?

  • บริการอินเทอร์เน็ตบ้านคุณภาพสูงผ่านโครงข่ายไฟเบอร์ออพติกแท้ 100% ส่งสัญญาณแรงเสถียร ไม่มีสะดุด ตอบโจทย์ทุกการใช้งานแบบไร้ขีดจำกัด
    รองรับการใช้งานมัลติมีเดียเต็มรูปแบบ เช่น ดูทีวีออนไลน์ เล่นเกมไม่แลค และเชื่อมต่อกล้องวงจรปิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจาก AIS ได้อย่างสะดวกทุกที่ทุกเวลา ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
    สนุกกับคอนเทนต์ความบันเทิงระดับพรีเมียมผ่าน AIS PLAYBOX ครบทุกความบันเทิงทั้งหนัง ซีรีส์ รายการทีวี และคาราโอเกะ คมชัดทุกจอ
    บริการติดตั้งรวดเร็ว พร้อมทีมซัพพอร์ตมืออาชีพ ให้คุณใช้งานได้อย่างมั่นใจ

บริการ AIS Fibre มีแพ็กเกจอะไรบ้าง

แพ็กเกจ ความเร็ว (ดาวน์โหลด/อัปโหลด) ค่าบริการรายเดือน (บาท)
Broanband
พร้อมเราเตอร์ WiFi 6 1ตัว
500 Mbps / 500 Mbps 500.-
Power 4 Starter Mini
รับเลย เราเตอร์ WiFi 6 ซิมเน็ต 10 GB, AIS PLAY BOX , PLAY.S
500 Mbps / 500 Mbps 599.-
Super MESH Plus
เราเตอร์ WiFi 6 2ตัว AIS PLAY BOX , PLAY.S
500 Mbps / 500 Mbps 599.-
Power 4 Starter MESH
รับเลย เราเตอร์ WiFi 6 2ตัว และ ซิมเน็ต 20 GB
500 Mbps / 500 Mbps 799.-
Power 4 Starter All
ครบจบในแพ็กเดียว! รับเราเตอร์ WiFi 6 จำนวน 2 ตัว + ซิมเน็ต 10GB + AIS PLAYBOX + PLAY.S
500 Mbps / 500 Mbps 899.-
Netflix Lover
สำหรับสายดูหนังโดยเฉพาะ! รับฟรี เราเตอร์ WiFi 6 พร้อมสิทธิ์รับชม Netflix 1 จอในความละเอียด HD
500 Mbps / 500 Mbps 899.-
Broanband24
ใช้งานต่อเนื่องได้เต็มสปีด พร้อมเราเตอร์ WiFi 6 จำนวน 1 ตัว
1 Gbps / 500 Mbps 600.-
Power 4 GIGA ENTERTAIN
รับเลย เราเตอร์ WiFi 6 + ซิมเน็ต 20 GB + AIS PLAY BOX + PLAY.M + KARAOK + Viu + MONO MAX
1 Gbps / 500 Mbps 799.-
Super MESH Plus
รับไปเลย! เราเตอร์ WiFi 6 จำนวน 2 ตัว พร้อม PLAY.M, Viu และ MONO MAX
1 Gbps / 500 Mbps 799.-
Power 4 GIGA MESH
รับเลย เราเตอร์ WiFi 6 2ตัว และ ซิมเน็ต 20 GB
1 Gbps / 500 Mbps 799.-
Power 4 GIGA AII
แพ็กเกจสุดคุ้ม! รับเราเตอร์ WiFi 6 จำนวน 2 ตัว + ซิมเน็ต 20GB + AIS PLAYBOX + PLAY.M + KARAOK + Viu + MONO MAX
1 Gbps / 500 Mbps 999.-
SuperMESH WiFi
รับเลย เราเตอร์ WiFi 6 2ตัว พร้อม Public IPv4 (มูลค่า 200 บาท)
1 Gbps / 500 Mbps 699.-

AIS Fibre รองรับบริการเสริมอะไรได้บ้าง ?

  • รองรับการใช้งานมัลติมีเดียได้อย่างเต็มรูปแบบ เช่น โทรศัพท์บ้าน (Fixed Line) และการรับชมทีวีผ่านอินเทอร์เน็ต (IPTV)
  • รองรับการดาวน์โหลดบิตทอร์เรนต์ โดยความเร็วในการดาวน์โหลดอาจแตกต่างกันตามจำนวนผู้ใช้งานในขณะนั้น (ภายใต้นโยบาย Fair Usage Policy)
  • รองรับการตั้งค่า Port Forwarding เพื่อใช้งานกับกล้องวงจรปิด (IP Camera) ได้ทุกแพ็กเกจที่คุณเลือกใช้งาน

เปลี่ยนแพ็กเกจความเร็วอินเทอร์เน็ต AIS Fibre ได้หรือไม่ ?

  • ลูกค้าที่ต้องการเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ต สามารถเปลี่ยนแพ็กเกจได้ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ AIS Fibre โดยเลือกเมนู “เปลี่ยนโปรโมชั่น” หรือโทรติดต่อ AIS Fibre Contact Center ที่เบอร์ 1175
  • ไม่สามารถเปลี่ยนความเร็วแพ็กเกจให้น้อยลง (Speed) จนกว่าจะครบอายุสัญญา 12 เดือน

ลูกค้าขอระงับการใช้บริการชั่วคราว หรือขอยกเลิกบริการก่อน 1 ปีได้หรือไม่ ?

กรณีขอระงับบริการชั่วคราว:

  • ใช้ได้เฉพาะลูกค้าที่สมัครแพ็กเกจรายเดือน และเปิดใช้งานมานานกว่า 90 วัน
  • ต้องไม่มีค่ายังค้างชำระในวันที่แจ้งขอระงับบริการ
  • สามารถขอระงับบริการได้ไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี (นับตามปฏิทิน)
  • ต้องแจ้งวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดของการระงับบริการทุกครั้ง โดยแต่ละครั้งต้องมีระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน และไม่เกิน 60 วัน
  • การแจ้งล่วงหน้าสำหรับระงับบริการต้องไม่เกิน 30 วันก่อนวันเริ่มต้น
  • เมื่อครบกำหนด ระบบจะเปิดใช้งานให้อัตโนมัติ และคิดค่าบริการตามวันใช้งานจริง (แบบ Prorate)
  • สามารถดำเนินการผ่าน AIS Shop หรือ AIS Fibre Contact Center 1175 เท่านั้น
  • ระหว่างที่หยุดใช้บริการ จะไม่คิดค่าบริการอินเทอร์เน็ตหลัก แต่ค่าบริการเสริม (เช่น Hooq, Doonee) และค่าเบอร์โทรศัพท์บ้าน (Fixed Line) จะยังถูกเรียกเก็บตามปกติ
  • โปรโมชั่นพิเศษที่ใช้งานอยู่จะยังคงนับระยะเวลาโปรโมชั่นต่อเนื่อง แม้จะอยู่ในช่วงระงับบริการชั่วคราว

การขอยกเลิกบริการก่อน 1 ปี สามารถทำได้หรือไม่

  • รับสิทธิ์ส่วนลดค่าติดตั้งและเดินสายภายนอก มูลค่า 4,800 บาท เมื่อตกลงใช้บริการเอไอส ไฟเบอร์ ต่อเนื่องอย่างน้อย 12 รอบบิล นับแต่วันติดตั้ง หากยกเลิกบริการก่อนครบ 12 รอบบิล ลูกค้าต้องชำระค่าติดตั้งคืนในอัตราที่ได้มีการหักลดลงตามสัดส่วนที่ได้ใช้บริการไปก่อนแล้ว เว้นแต่กรณีที่เหตุแห่งการยกเลิกบริการเกิดขึ้นจากให้บริการที่ไม่เป็นไปตามโฆษณาหรือมาตรฐานการให้บริการที่ได้แจ้งไว้ หรือเกิดขึ้นจากความผิดของผู้ให้บริการ จะไม่มีการเรียกเก็บค่าติดตั้งอีกแต่อย่างใด
  • กรณีเลือกชำระค่าติดตั้งและค่าเดินสายภายนอก 4,800 บาท ในรอบบิลแรก จะไม่มีกำหนดเงื่อนไขระยะเวลาการใช้บริการ เอไอเอส ไฟเบอร์
  • กรณีลูกค้ายกเลิกบริการ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บคืนอุปกรณ์ทั้งหมดให้ทางบริษัทฯ

มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการระงับบริการชั่วคราวหรือไม่ ?

  • ภายใน 30 วันแรก ไม่มีค่าบริการรายเดือนหรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
  • เกิน 30 วัน (วันที่ 31 – 60) มีการเรียกเก็บค่ารักษาช่องสัญญาณ (Port Maintenance Fee) จำนวน 150 บาท โดยคำนวณตามระยะเวลาที่ระงับบริการจริง
  • เมื่อเปิดใช้งานใหม่ (Reconnect) ระบบจะคิดค่าบริการแบบ Prorate ตามจำนวนวันที่ใช้งานจริง ในรอบบิลนั้น

ในวันติดตั้ง ต้องเตรียมอะไรบ้าง และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือไม่?

  • ลูกค้าจะต้องชำระค่าแรกเข้า 800 บาท (รวม VAT) เป็นเงินสดกับช่างติดตั้งในวันติดตั้ง ค่าแรกเข้าครั้งนี้เป็นค่าใช้บริการอินเทอร์เน็ตเอไอเอส ไฟเบอร์ครั้งแรก โดยลูกค้าจะได้รับคืนเป็นส่วนลดค่าบริการรายเดือน 100 บาท นาน 8 รอบบิล ในกรณีที่มีการระงับการใช้งานชั่วคราว ส่วนลดนี้จะถูกยุติทันที ช่างติดตั้งจะออกใบเสร็จรับเงินชั่วคราวให้ และใบเสร็จรับเงินตัวจริงจะถูกจัดส่งภายใน 2 ใบแจ้งค่าบริการ
  • การติดตั้งภายในบ้านอาจต้องเจาะผนังหรือฝ้าเพดานเพื่อเดินสาย กรุณาจัดเตรียมพื้นที่สำหรับการติดตั้ง
  • ลูกค้าจะได้รับอุปกรณ์ Router และบริการเดินสายฟรีตามระยะทางที่กำหนด หากต้องการเดินสายเกินระยะทางที่กำหนด (สายโทรศัพท์ 10 เมตร) จะมีค่าใช้จ่ายเมตรละ 20 บาท โดยลูกค้าต้องชำระกับช่างติดตั้ง ณ วันติดตั้ง

บริการติดตั้งพิเศษของเอไอเอส ไฟเบอร์คืออะไร?

บริการติดตั้งสายไฟเบอร์ออพติกพิเศษ รวมถึงการติดตั้งในรางหรือท่อ PVC เพื่อความเรียบร้อยและความปลอดภัย พร้อมบริการติดตั้งสายแลน CAT 5e สำหรับเพิ่มการกระจายสัญญาณให้ครอบคลุมพื้นที่ที่ลูกค้าต้องการ

ทำไมบางคนไม่ต้องชำระค่าแรกเข้า?

  • สำหรับผู้ที่สมัครบริการก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2560: ค่าแรกเข้าเดิมที่ได้รับการยกเว้นเป็นส่วนหนึ่งของโปรโมชั่นในช่วงนั้น ซึ่งบริษัทได้ลดค่าแรกเข้าให้เหลือ 800 บาท จากราคาปกติที่ 2,000 บาท
  • สำหรับผู้ที่สมัครบริการหลังวันที่ 1 กรกฎาคม 2560: ค่าแรกเข้าจะถูกเรียกเก็บตามเงื่อนไขของแพ็กเกจที่เลือก โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์, Leaflet, หรือจากพนักงานขาย

กรณีไม่ชำระค่าแรกเข้า 800 บาท

เงื่อนไขสิทธิพิเศษในการติดตั้งฟรี วันติดตั้งลูกค้าไม่ต้องชำระเงิน มูลค่า 800 บาท

  1. ที่อยู่ที่ต้องการจะติดตั้งอินเตอร์เน็ตตรงกับที่อยู่ตามบัตรประชาชน
  2. ผู้สมัครมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านที่ต้องการจะติดตั้งอินเตอร์เน็ต
  3. บิลค่าน้ำหรือค่าไฟเป็นชื่อผู้สมัคร

กรณีไม่ชำระค่าแรกเข้า 800 บาท
การติดตั้งบริการจะไม่สามารถดำเนินการได้

การติดตั้งมีติดสัญญา หรือเปล่า ว่า 1 ปี หรือ 2 ปี เหมือนผู้ให้บริการรายอื่น?

  • ลูกค้าสามารถเลือกสมัครบริการเอไอเอส ไฟเบอร์ใน 2 รูปแบบดังนี้

    1. การรับสิทธิ์ส่วนลดค่าติดตั้งและเดินสายภายนอก มูลค่า 4,800 บาท เมื่อสมัครใช้บริการเอไอเอส ไฟเบอร์ โดยมีเงื่อนไขต้องใช้งานต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 12 รอบบิล นับจากวันที่ติดตั้ง หากยกเลิกบริการก่อนครบ 12 รอบบิล ลูกค้าจะต้องชำระค่าติดตั้งคืนในอัตราส่วนที่ใช้บริการแล้ว ยกเว้นกรณีที่การยกเลิกเกิดจากการบริการที่ไม่ตรงตามมาตรฐานหรือโฆษณาที่ให้ไว้ หรือเกิดจากความผิดของผู้ให้บริการ จะไม่เรียกเก็บค่าติดตั้งแต่อย่างใด
    2. การชำระค่าติดตั้งและเดินสายภายนอก 4,800 บาท ในรอบบิลแรก ลูกค้าจะไม่ถูกกำหนดระยะเวลาการใช้บริการเอไอเอส ไฟเบอร์
    3. กรณีลูกค้ายกเลิกบริการ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บอุปกรณ์ทั้งหมดคืนจากลูกค้า

Port Forwarding คืออะไร?

คือกระบวนการกำหนดเส้นทางของข้อมูลที่ถูกส่งมายังเราเตอร์ (Router) เพื่อให้ข้อมูลนั้นถูกส่งต่อไปยังอุปกรณ์ที่อยู่ภายในเครือข่ายภายใน (LAN) โดยใช้หมายเลขพอร์ต (Port Number) เป็นตัวระบุเส้นทางที่ต้องการ ซึ่งกระบวนการนี้มักต้องทำงานร่วมกับระบบ DDNS เพื่อให้สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ได้สะดวกแม้ IP Address จะมีการเปลี่ยนแปลง

DDNS คืออะไร?

คือระบบที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายหรืออุปกรณ์ที่อยู่หลังเราเตอร์ได้ แม้ว่า IP Address จากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) จะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาหรือทุกครั้งที่เปิด/ปิด Router โดย DDNS จะทำการอัปเดต IP ที่เปลี่ยนแปลงให้ตรงกับชื่อโดเมนที่ตั้งไว้ ทำให้สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ปลายทางได้เสมอผ่านชื่อโดเมนแทนการจดจำ IP

Access Point (AP) คืออะไร?

คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายภายในพื้นที่หนึ่ง โดยมักเชื่อมต่อกับเครือข่ายผ่านสาย LAN เพียงช่องเดียว จากนั้นจะปล่อยสัญญาณ Wi-Fi เพื่อให้เครื่องลูกข่ายภายในรัศมีสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายได้อย่างสะดวก

Wireless 2.4 GHz และ Wireless 5 GHz ต่างกันอย่างไร? และใช้แบบไหนดีกว่า?

  • Wireless 2.4 GHz คือความถี่ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตซึ่งมีระยะการใช้งานที่ไกลมากขึ้น แต่ข้อเสียคือ มีช่องสัญญาณที่จำกัด และมักมีสัญญาณอื่นๆ ที่ทำงานในช่วงความถี่เดียวกัน เช่น สัญญาณจากไมโครเวฟ ทำให้เกิดการรบกวนระหว่างสัญญาณ อาจทำให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่เสถียรและหลุดบ่อย
  • Wireless 5 GHz นั้นแม้จะมีข้อเสียที่สามารถใช้งานได้ในระยะทางสั้นกว่า 2.4 GHz แต่มีช่องสัญญาณที่กว้างและมีโอกาสในการรบกวนน้อยกว่า เนื่องจากมีความถี่สูงกว่าจึงให้ความเสถียรที่ดีกว่าในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณรบกวน
  • คำแนะนำ: หากสภาพแวดล้อมมีสัญญาณรบกวนมาก ควรเลือกใช้ Wireless 5 GHz เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า แม้ว่าในระยะทางจะสั้นกว่า หากสภาพแวดล้อมไม่มีสัญญาณรบกวนมาก ก็สามารถเลือกใช้งานทั้ง Wireless 2.4 GHz และ 5 GHz ได้ตามความสะดวก

มาตรฐาน Wireless 802.11 IEEE คืออะไร?

มาตรฐานนี้เป็นการกำหนดความเร็วและรูปแบบของการรับ-ส่งข้อมูลแบบไร้สาย โดยแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก ได้แก่:

  1. Class a: ใช้คลื่นความถี่ 5 GHz ความเร็วสูงสุด 54 Mbps
  2. Class b: ใช้คลื่นความถี่ 4 GHz ความเร็วสูงสุด 11 Mbps
  3. Class g: ใช้คลื่นความถี่ 4 GHz ความเร็วสูงสุด 54 Mbps
  4. Class n: รองรับทั้ง 4 GHz และ 5 GHz ความเร็วสูงสุด 300 Mbps
  5. Class ac: ใช้คลื่นความถี่ 5 GHz ความเร็วสูงสุด 1300 Mbps

Bridge Mode คืออะไร? และใช้งานอย่างไร?

  • Bridge Mode คือโหมดการทำงานของเราเตอร์ที่ช่วยให้การแปลงสัญญาณจาก Analog เป็น Digital และส่งผ่านสัญญาณไปยังเราเตอร์ตัวอื่นที่ทำหน้าที่จัดการ IP Address โดยตรง
  • ข้อดีของ Bridge Mode คือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเราเตอร์ เพราะหนึ่งตัวทำหน้าที่แปลงสัญญาณ ขณะที่อีกตัวจัดการ IP และระบบไร้สาย (Wireless) ช่วยลดภาระการทำงานของอุปกรณ์ที่มี CPU และ RAM จำกัด หากใช้งานหลายฟังก์ชันในเวลาเดียวกัน อาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง

วิธีแก้ไขปัญหาสัญญาณ Wireless อ่อน/หลุดบ่อย/ไม่เสถียร

  • ตรวจสอบสัญญาณ: แนะนำให้ผู้ใช้งานตรวจสอบคุณภาพของสัญญาณด้วยโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันดังนี้:
    • สำหรับคอมพิวเตอร์: ใช้โปรแกรม insider
    • สำหรับมือถือ: ใช้แอปพลิเคชัน Wi-Fi Analyzer
  • โปรแกรมและแอปพลิเคชันทั้งสองนี้สามารถแสดงสัญญาณ Wi-Fi ที่อยู่รอบๆ และบอกว่าแต่ละช่องสัญญาณ (Wi-Fi Channel) มีการใช้งานมากน้อยแค่ไหน
  • หากพบช่องสัญญาณ (Channel) ที่ใช้งานน้อย ควรตั้งค่า Wi-Fi บนเราเตอร์ให้ใช้ช่องนั้น เพื่อลดการรบกวนจากสัญญาณอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้สัญญาณ Wireless เสถียรและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ไม่สามารถเข้าใช้งานบางเว็บไซต์ได้ แก้ไขอย่างไรดี?

หากไม่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณไร้สาย (Wireless) ได้ อาจเกิดจากสัญญาณรบกวนบริเวณที่ใช้งาน แนะนำให้ทำตามขั้นตอนดังนี้:

  1. เริ่มต้นด้วยการรีบูต (Reboot) เราเตอร์ 1 ครั้ง แล้วลองเชื่อมต่อ Wi-Fi ใหม่อีกครั้ง
  2. หากยังเชื่อมต่อไม่ได้ ให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป:

ขั้นตอนตั้งค่าเราเตอร์เพื่อแก้ไขปัญหา:

  1. เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับเราเตอร์ผ่านสาย LAN
  2. เปิดเว็บเบราว์เซอร์ แล้วพิมพ์168.1.1
  3. ไปที่เมนู ตั้งค่า Wireless
  4. เปลี่ยน Channel เป็น Auto Select
  5. กด Reboot อุปกรณ์ จากนั้นลองเชื่อมต่อ Wi-Fi อีกครั้ง

คำอธิบายรหัสข้อผิดพลาด (Error Code) ที่พบบ่อยบนเบราว์เซอร์

รหัส ความหมาย แนวทางแก้ไข
400 Bad Request คำขอไม่ถูกต้อง ตรวจสอบ URL ที่ป้อนให้ถูกต้อง
401 Unauthorized ยังไม่ได้รับอนุญาต ตรวจสอบชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านอีกครั้ง (พิมพ์ให้ถูกต้องทั้งตัวเล็กและใหญ่)
403 Forbidden ไม่อนุญาตให้เข้าถึง ตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึงหรือข้อมูลล็อกอินอีกครั้ง
404 Not Found ไม่พบหน้าหรือไฟล์ที่ร้องขอ ตรวจสอบ URL หรือชื่อไฟล์ให้ถูกต้อง อาจถูกลบหรือย้ายไปแล้ว
408 Request Timeout การร้องขอหมดเวลา ลองโหลดหน้าใหม่อีกครั้ง หรือเช็คความเร็วอินเทอร์เน็ต
415 Unsupported Media Type ไม่รองรับประเภทไฟล์ ตรวจสอบว่าไฟล์หรือ media ที่ใช้มีฟอร์แมตที่ระบบรองรับหรือไม่
500 Internal Server Error ข้อผิดพลาดภายในเซิร์ฟเวอร์ ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
501 Not Implemented ไม่รองรับคำร้องขอ ลองเข้าใช้งานใหม่ หากยังไม่ได้ให้ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์
502 Bad Gateway เกตเวย์ทำงานผิดพลาด ลองเข้าใหม่ในภายหลัง อาจมีผู้ใช้งานมากเกินไป
503 Service Unavailable บริการไม่พร้อมใช้งาน ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และ URL อีกครั้ง หรือติดต่อผู้ดูแลระบบ

สัญญาณ wireless (Wi-Fi) ไม่เสถียร

หากคุณพบว่า Wi-Fi ที่ใช้งานมีสัญญาณไม่คงที่ หรือเชื่อมต่อแล้วหลุดบ่อย สามารถปรับตั้งค่าช่องสัญญาณ (Channel) บนเราเตอร์ได้ด้วยวิธีต่อไปนี้:

ขั้นตอนปรับ Channel บนเราเตอร์

  1. เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับเราเตอร์ผ่านสาย LAN
  2. เปิดเว็บเบราว์เซอร์ แล้วพิมพ์168.1.1
  3. ใส่ Username และ Password เพื่อเข้าสู่ระบบ
  4. ไปที่เมนู Wireless Setting
  5. ที่หัวข้อ Channel ให้เลือกเปลี่ยนช่องสัญญาณ (แนะนำใช้ Channel 1, 6 หรือ 11 ที่มีความเสถียรมากที่สุด)
  6. คลิก Apply เพื่อบันทึกการตั้งค่า
  7. ลองเชื่อมต่อ Wi-Fi อีกครั้ง

เบราว์เซอร์ทำงานช้ากว่าปกติใน Google Chrome

หากเบราว์เซอร์ Google Chrome, Internet Explorer, Mozilla Firefox, Safari ทำงานช้าหรือโหลดหน้าเว็บช้า คุณสามารถล้างข้อมูล Cache เพื่อเพิ่มความเร็วได้ตามขั้นตอนนี้

  1. เปิดเบราว์เซอร์ Google Chrome
  2. กด Ctrl + Shift + Delete
  3. เลือกติ๊กที่ช่อง Cache
  4. กำหนดช่วงเวลาที่ต้องการล้างข้อมูล (แนะนำให้เลือก "All time")
  5. คลิก ล้างข้อมูล (Clear data) เพื่อยืนยันการทำงาน
  6. ปิดและเปิดเบราว์เซอร์ใหม่อีกครั้ง

ไม่สามารถใช้งาน Airport Extreme ได้

เนื่องจาก AIS Fibre มีการแจกจ่าย IPv6 ในรูปแบบ Dual Stack ซึ่ง Airport Extreme ไม่รองรับการใช้งาน IPv6 ในลักษณะนี้ ทำให้ Airport Extreme ไม่สามารถใช้งานได้ หากมีการดำเนินการแก้ไข เราจะแจ้งให้ลูกค้าทราบในภายหลัง

ปัญหาการดีเลย์ของภาพสดจากกล้องวงจรปิด

เพื่อแก้ไขปัญหาการดีเลย์ในการแสดงภาพสดจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อย คุณสามารถทำได้โดย:

  • เพิ่ม bandwidth ของอินเทอร์เน็ต
  • ลด bit-rate ในการแสดงภาพ
    การทำตามนี้จะช่วยลดปัญหาดีเลย์ในการแสดงภาพสด

ไฟแสดงสถานะ LOS กะพริบเป็นสีแดง

  1. ตรวจสอบ สายไฟเบอร์ออปติก เส้นสีเหลืองที่เชื่อมต่อกับเราเตอร์ให้แน่นและไม่มีการหลุดหลวมหรือหักงอ
  2. ปิดและเปิด เราเตอร์ แล้วทดลองใช้งานใหม่
  3. หากไฟสถานะ LOS ยังคงติดสีแดงหลังจากตรวจสอบการต่อสายแล้ว แนะนำให้ติดต่อพนักงานเพื่อขอความช่วยเหลือ

ไฟสถานะ PON ติดสีเขียว แต่ใช้งานไม่ได้

  1. ตรวจสอบ สาย LAN ที่เชื่อมต่อจากอุปกรณ์แปลงสัญญาณไปยังช่อง WAN ที่ Router (ยกเว้นRouter รุ่น HG8245W5 ต้องต่อเข้าช่อง LAN ช่องที่ 4)
  2. หากต่อสายถูกต้องแล้ว Reset Router 1 ครั้ง
  3. หากยังไม่สามารถใช้งานได้ แนะนำให้ติดต่อพนักงานเพื่อขอความช่วยเหลือ

ไฟ Status Internet ไม่ติด

  1. ตรวจสอบการเชื่อมต่อสาย LAN จาก Single Port ไปยัง Router
    • ต้องต่อสายเข้าช่อง WAN เท่านั้น
    • ยกเว้น Router รุ่น HG8245W5 ต้องต่อเข้าช่อง LAN 4 (เนื่องจากไม่มี Port WAN)
  1. ปิด-เปิด Router แล้วทดลองใช้งานใหม่อีกครั้ง
  2. หากยังใช้งานไม่ได้ แนะนำติดต่อพนักงานเพื่อขอความช่วยเหลือ

สัญญาณ WiFi หลุดบ่อย หรือไม่เสถียรเมื่อใช้งานผ่านระบบ MESH WiFi

  1. ตรวจสอบการเชื่อมต่อสาย LAN จาก Single Port ไปยัง Router
    • ต้องต่อสายเข้าช่อง WAN เท่านั้น
    • ยกเว้น Router รุ่น HG8245W5 ต้องต่อเข้าช่อง LAN 4 (เนื่องจากไม่มี Port WAN)
  1. ปิด-เปิด Router แล้วทดลองใช้งานใหม่อีกครั้ง
  2. หากยังใช้งานไม่ได้ แนะนำติดต่อพนักงานเพื่อขอความช่วยเหลือ

ในกรณีที่เชื่อมต่อผ่านสัญญาณ WiFi

  1. ตรวจสอบว่า MESH Router วางอยู่ใกล้กับเราเตอร์หลักหรือไม่
  2. หากอยู่ห่างเกินไป แนะนำให้ย้ายจุดติดตั้ง MESH Router ให้อยู่ใกล้ขึ้นเพื่อเสริมสัญญาณ
  3. เพื่อความเสถียรมากขึ้น ควรเชื่อมต่อ MESH Router กับเราเตอร์หลักผ่านสาย LAN
  4. ปิดแล้วเปิด MESH Router ใหม่หนึ่งครั้ง และตรวจสอบการเชื่อมต่ออีกครั้ง

แก้ปัญหาเน็ตช้า WiFi หลุดบ่อย หรือเชื่อมต่อไม่ได้

หากคุณประสบปัญหาอินเทอร์เน็ตช้า สัญญาณ WiFi ไม่เสถียร หรือไม่สามารถเชื่อมต่อ WiFi ได้ ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อแก้ไขเบื้องต้น:

  1. กดปุ่ม ON/OFF เพื่อปิด-เปิดเราเตอร์ใหม่อีกครั้ง
  2. ปิดสัญญาณ WiFi บนอุปกรณ์ทั้งหมด เช่น มือถือ แท็บเล็ต และ AIS PLAYBOX
  3. เชื่อมต่อสาย LAN จากเราเตอร์เข้าสู่คอมพิวเตอร์โดยตรง
  4. ทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตผ่านเว็บไซต์ speedtest.net ว่าตรงกับแพ็กเกจที่ใช้งานหรือไม่
  5. หากความเร็วไม่เป็นไปตามแพ็กเกจ แนะนำให้ปรับเปลี่ยนช่องสัญญาณ WiFi เพราะอาจเกิดการรบกวนจากสัญญาณรอบข้าง

วิธีเปลี่ยนชื่อ WiFi และรหัสผ่าน AIS Fibre

เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและจัดการอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้ง่ายขึ้น คุณสามารถเปลี่ยนชื่อและรหัสผ่าน WiFi ได้ตามขั้นตอนนี้:

  1. เชื่อมต่อสัญญาณ WiFi ของ AIS Fibre ที่ต้องการเปลี่ยนชื่อหรือรหัส
  2. เข้าสู่เว็บไซต์ https://myaisfibre.com
  3. เลือกเมนู ตั้งค่าอุปกรณ์
  4. แก้ไขชื่อ WiFi ที่ช่อง SSID (Wi-Fi Name) และกดเลือก Change Password เพื่อเปลี่ยนรหัสผ่าน
  5. กด Submit เพื่อบันทึกการตั้งค่า

หมายเหตุ: ไม่สามารถดูรหัสผ่านปัจจุบันได้ กรุณาตั้งรหัสใหม่หากลืมรหัสเดิม

การตั้งค่าการใช้งานกล่อง AIS PLAYBOX

การตั้งค่าการเชื่อมต่อระบบ

  1. การเชื่อมต่อสัญญาณภาพและเสียงโดยการเชื่อมต่อสาย HDMI หรือ AV จากกล่องรับสัญญาณ (STB) เข้ากับพอร์ต HDMI/AV ของโทรทัศน์ เพื่อแสดงภาพและเสียงอย่างชัดเจน
  2. การเชื่อมต่อกับเครือข่ายสัญญาณอินเทอร์เน็ต เสียบสาย Ethernet เข้ากับพอร์ต LAN ของกล่อง STB และอีกด้านเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ต LAN บนเราเตอร์ เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้อย่างเสถียร
  3. การเชื่อมต่อแหล่งจ่ายไฟ:
    เสียบสายอะแดปเตอร์ไฟฟ้า (Power Adapter) เข้ากับช่องจ่ายไฟของกล่อง STB และเสียบปลั๊กเข้ากับแหล่งจ่ายไฟ เมื่อเปิดสวิตช์ อุปกรณ์จะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ

วิธีการติดตั้งแอพพลิเคชั่น

  • การติดตั้งแอปพลิเคชันผ่าน App Store เมื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่ App Store และติดตั้งแอปพลิเคชันที่ต้องการได้ทันที
  • การติดตั้งแอปพลิเคชันด้วย USB Drive หรือ SD Card
    • เสียบ USB Drive หรือ SD Card ที่มีไฟล์แอปพลิเคชันนามสกุล .APK อยู่ภายใน
    • เปิดเบราว์เซอร์แล้วเลือกไฟล์ .APK ที่ต้องการติดตั้ง
    • ระบบจะแสดงกล่องข้อความเพื่อยืนยันการติดตั้ง ให้กด “ติดตั้ง” เพื่อเริ่มต้นการติดตั้งแอป

วิธีการยกเลิกการติดตั้งแอพพลิเคชั่น

  1. ไปที่เมนู การตั้งค่า (Settings) แล้วเลือก Advanced จากนั้นเข้าไปที่ APPS
  2. เลือกแอปพลิเคชันที่ต้องการลบออกจากอุปกรณ์
  3. กดปุ่ม ยกเลิกการติดตั้ง (Uninstall) เพื่อดำเนินการลบแอปพลิเคชัน

การตั้งค่าการใช้งานกล่อง AIS PLAYBOX

วิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น

  1. ปิดเครื่อง Router และกล่อง AIS PLAYBOX ทิ้งไว้ประมาณ 2 – 3 นาที จากนั้นเปิดเครื่องใหม่ทั้งสองอุปกรณ์แล้วลองใช้งานอีกครั้ง
  2. ตรวจสอบไฟแสดงสถานะบนกล่อง AIS PLAYBOX ว่ายังคงติดหรือไม่
    • หาก ไม่มีไฟติดเลย หรือไม่สว่าง: ตรวจสอบสายไฟหรืออะแดปเตอร์ว่าเชื่อมต่อแน่นดีหรือไม่
    • หากไฟ แสดงเป็นสีเขียว: อุปกรณ์พร้อมใช้งานตามปกติ
    • หากไฟ แสดงเป็นสีแดง: กล่องอยู่ในโหมดสแตนด์บาย ให้กดปุ่ม Power บนรีโมทเพื่อเปิดเครื่อง
      (หากไฟบนรีโมทไม่กระพริบเมื่อกด อาจเกิดจากแบตเตอรี่หมด ให้ลองเปลี่ยนถ่านก่อน)
  3. ตรวจสอบการเชื่อมต่อสาย HDMI หรือ AV ว่าเสียบถูกต้องและแน่นหนาหรือไม่
    พอร์ตเชื่อมต่อ AISPLAYBOX
  4. หากหน้าจอโทรทัศน์ยังไม่แสดงภาพ แนะนำให้ลองเปลี่ยนสาย HDMI เส้นใหม่ (หากมี) แล้วทดสอบการใช้งานอีกครั้ง

กล่อง AIS PLAYBOX ไฟไม่เข้า

  1. ตรวจสอบปุ่ม เปิด–ปิด (Power) ที่อยู่ด้านหลังของกล่อง AIS PLAYBOX ว่าอยู่ในสถานะ "เปิด" หรือไม่
  2. ลองขยับสาย Adapter ทั้งด้านที่เชื่อมต่อกับกล่อง AIS PLAYBOX และด้านที่เสียบเข้าปลั๊กไฟบ้าน เพื่อให้แน่ใจว่าสายเชื่อมต่อแน่นและไม่มีปัญหา

กล่อง AIS PLAYBOX ค้างอยู่ที่ LOGO AIS PLAY

  1. ปิด–เปิดกล่อง AIS PLAYBOX ใหม่อีกครั้ง จากนั้นเมื่อเข้าสู่หน้าจอหลัก (Home) แล้ว แนะนำให้เข้าแอปฯ AISPLAY ผ่าน ไอคอนหรือแบนเนอร์ (Banner) หรือกดปุ่ม AISPLAY บนรีโมทเพื่อเริ่มใช้งานทันที
  2. หลังจากเข้าสู่หน้าจอหลักแล้ว ให้รอประมาณ 1 นาที แล้วกดปุ่ม AISPLAY บนรีโมทอีกครั้งเพื่อเข้าใช้งาน
  3. หากยังพบปัญหาในการใช้งาน ให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้
    • กด Reset กล่อง AIS PLAYBOX ตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งาน (หมายเหตุ: การรีเซ็ตจะคืนค่าโรงงาน ซึ่งจะลบข้อมูลการเข้าสู่ระบบของแอปพลิเคชันอื่น เช่น Netflix ผู้ใช้งานจะต้อง Login ใหม่)
    • ค้นหา หมายเลข SN แล้วเลือก SN ที่ต้องการ
    • กดปุ่ม Reset และรอให้ระบบทำการรีเซ็ตประมาณ 3 นาที
  4. เมื่อต้องการใช้งานอีกครั้ง แนะนำให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน สาย LAN เพื่อความเสถียร หากต้องการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ให้ดำเนินการตั้งค่าการเชื่อมต่อก่อนใช้งาน

กล่อง AIS PLAYBOX ต่อผ่าน Wi-Fi แจ้งเตือนให้ตั้งค่าเชื่อมต่อเครือข่าย

วิธีการตั้งค่า Wi-Fi ดังนี้

  1. คลิกที่ปุ่ม “Settings” (การตั้งค่า) บนหน้าจอของ AIS PLAYBOX ที่แสดงอยู่
  2. เลือกตัวเลือก “Network select” (การเลือกเครือข่าย) และคลิกที่ “Wi-Fi” (เครือข่ายไร้สาย)
  3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Wi-Fi (ไร้สาย) เปิดใช้งานอยู่และมีการเชื่อมต่อกับสัญญาณ Wi-Fi ที่พร้อมใช้งานแล้ว
    ไวไฟ AISPLAYBOX

กล่อง AIS PLAYBOX ต่อผ่าน LAN แจ้งเตือนให้ตั้งค่าเชื่อมต่อเครือข่าย

วิธีการตั้งค่า LAN ดังนี้

  1. ตรวจสอบการต่อสาย LAN ที่กล่อง AIS PLAYBOX ว่าต่อที่ช่อง LAN4 อยู่หรือไม่
  2. เข้าไปที่เมนู เครือข่ายบนหน้าจอของ AIS PLAYBOX โดยกดปุ่ม “Settings” (ตั้งค่า) บนหน้าจอ AIS PLAYBOX ที่แสดง
  3. เลือก “Network select” (ตั้งค่าเครือข่าย), เลือก “Ethernet” (อีเทอร์เน็ต)
  4. ตรวจสอบตัวเลือก DHCP จะต้องเลือก “เปิด” หรือ “On” และ มีหมายเลข IP Address แสดง ตัวอย่างดังนี้
    อีเทอร์เน็ต AIS PLAYBOX

ไม่สามารถเปิดกล่อง AIS PLAYBOX ได้

ตรวจสอบสถานะไฟของกล่อง AIS PLAYBOX

  1. หาก ไม่มีไฟแสดงผล: ตรวจสอบการเสียบสาย Adapter ว่าแน่นหรือไม่ หากแน่นแล้วแต่ยังไม่มีไฟ (สีแดงหรือเขียว) แนะนำให้ถอดปลั๊กออกจากตัวกล่องประมาณ 5 นาที แล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่ จากนั้นเปิดเครื่องและตรวจสอบสถานะไฟอีกครั้ง
  2. หาก มีไฟแสดงผล:
    • ไฟสีเขียว แสดงว่าอุปกรณ์พร้อมใช้งานตามปกติ
    • ไฟสีแดง แสดงว่าอยู่ในโหมด Sleep ให้กดปุ่ม Power ที่รีโมทเพื่อเปิดใช้งาน

ปัญหาเกี่ยวกับการแสดงภาพบน AIS PLAYBOX

ภาพกระตุกหรือไม่ลื่นไหล

  • ปิดเราเตอร์อินเทอร์เน็ต ถอดปลั๊กออก แล้วเสียบใหม่ จากนั้นลองใช้งานอีกครั้ง
  • หากปัญหายังไม่หาย แนะนำให้เปลี่ยนจากการเชื่อมต่อ Wi-Fi มาใช้สาย LAN เพื่อความเสถียรมากขึ้น

ภาพไม่ขึ้นบนหน้าจอ

  • ตรวจสอบสาย HDMI ว่าเชื่อมต่อกับทั้ง TV และกล่อง AIS PLAYBOX อย่างแน่นหนาหรือไม่ หากภาพติดๆ ดับๆ ขณะขยับสาย แสดงว่าสาย HDMI อาจมีปัญหา แนะนำให้เปลี่ยนสายใหม่หากมีสำรอง
  • หากสาย HDMI ปกติ ให้ลองเปลี่ยนช่องรับสัญญาณบนทีวี เช่น HDMI1, HDMI2 หรือ HDMI3

หน้าจอไม่พอดีกับขอบจอทีวี

  • ปรับขนาดหน้าจอได้ที่เมนู Scale Screen โดยเข้าไปที่:
    Settings > ทั่วไป (Common) > Screen Scale
    ใช้ปุ่ม + หรือ - บนรีโมท AIS PLAYBOX เพื่อปรับขนาดหน้าจอให้เหมาะสม

หน้าจอไม่คมชัด

  • เข้าไปที่เมนู Settings > Common > Output Mode
    จากนั้นเลือกความละเอียดให้ตรงกับทีวีที่ใช้งาน:

    • ทีวีที่รองรับ 4K: เลือก 4k2k-30hz
    • ทีวีที่รองรับ Full HD: เลือก 1080p-50hz
    • ขนาดมาตรฐานทั่วไป: เลือก 720p-60hz

ภาพค้าง ไม่ตอบสนอง

  • ปิดการใช้งานกล่อง AIS PLAYBOX และถอดสาย Adapter ออก
  • รอประมาณ 30 วินาทีแล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่ จากนั้นเปิดใช้งานอีกครั้ง

กล่อง Playbox เสียงไม่ออก TV

  1. กล่อง AIS PLAYBOX รองรับวิดีโอความละเอียด 4K ที่ 30fps และรองรับเสียงระบบ Dolby Digital 5.1 (DD 5.1) อย่างไรก็ตาม กล่องไม่รองรับเสียงประเภท DTS-HD และ TRUE-HD โดยตรงจากตัวฮาร์ดแวร์ หากต้องการใช้งานเสียงประเภทนี้ แนะนำให้ใช้วิธี Pass through ส่งสัญญาณออกไปยังอุปกรณ์ภายนอกที่รองรับเสียงดังกล่าว เช่น เครื่องเสียงหรือทีวีที่มีฟังก์ชันรองรับ
  2. หากเล่นไฟล์เสียง DTS-HD หรือ TRUE-HD ไม่ได้ ให้ตรวจสอบอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่าน HDMI เช่น ทีวีหรือเครื่องเสียง ว่ารองรับระบบเสียง DTS-HD และ TRUE-HD หรือไม่ ตัวอย่างเช่น: หากกล่องเชื่อมต่อผ่าน HDMI ไปยังทีวีโดยตรง ทีวีเครื่องนั้นจะต้องรองรับเสียง DTS-HD หรือ TRUE-HD ด้วยเช่นกัน

รีโมทไม่สามารถใช้งานได้

  1. ลองเชื่อมต่อ เมาส์หรือคีย์บอร์ด เพื่อทดสอบว่าอุปกรณ์ไม่ได้ค้าง หากยังสามารถเลื่อนหน้าจอได้ อาจเป็นปัญหาที่รีโมท
  2. กดปุ่มบนรีโมทแล้วสังเกตว่าไฟ IR ที่ตัวกล่อง กระพริบหรือไม่
    1. ถ้าไฟไม่กระพริบ อาจเกิดจาก ถ่านหมด หรือใส่ถ่านผิดขั้ว ให้ลองเปลี่ยนถ่านใหม่หรือสลับขั้วถ่าน
  3. หากทำตามขั้นตอนแล้วยังพบปัญหา สามารถนำรีโมทไป เปลี่ยนใหม่ที่ AIS Shop หรือ Serenade Club ทุกสาขา (ยกเว้น AIS Shop by Partner และ Telewiz)
    1. หมายเหตุ: รีโมทที่ชำรุดจากการตกหล่น เปียกน้ำ แตก หรือสูญหาย จะ ไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน

กล่อง Playbox แป้นคีย์บอร์ดไม่ขึ้นที่หน้าจอ TV

  1. เข้าไปที่ Settings
  2. เลือก Advance
  3. เลือก Language & Input
  4. เลือก Android Keyboard
  5. ค่า Active Input Methods เป็น English (US)
  6. เลื่อนลงและเลือก Thai เพื่อเพิ่มภาษาไทย

บทความและข่าวสาร